ผ้ากันไฟที่สามารถป้องกันอัคคีภัย ควรเป็นประเภทไหนเมื่อพูดถึง "ผ้ากันไฟที่สามารถป้องกันอัคคีภัย" ในบริบทของโรงงานอุตสาหกรรม หมายถึงผ้าที่มีคุณสมบัติไม่ติดไฟ หรือทนทานต่อเปลวไฟและความร้อนสูงได้ดีเยี่ยม เพื่อใช้ในการจำกัดวงเพลิงไหม้ ป้องกันการลุกลาม หรือปกป้องชีวิตและทรัพย์สินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผ้ากันไฟประเภทที่นิยมและมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันอัคคีภัย ควรเป็นประเภทที่มีคุณสมบัติหลักดังนี้:
คุณสมบัติสำคัญที่ต้องมี:
ไม่ติดไฟ (Non-Combustible): คือ หัวใจสำคัญที่สุดของผ้ากันไฟที่ใช้ป้องกันอัคคีภัย ผ้าต้องไม่เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มเติม และไม่ช่วยให้ไฟลุกลาม
ทนอุณหภูมิสูง (High Temperature Resistance): สามารถทนทานต่อความร้อนที่เกิดจากเปลวไฟได้โดยไม่หลอมละลาย, ไหม้เป็นขี้เถ้าอย่างรวดเร็ว, หรือสูญเสียโครงสร้าง
ไม่ลามไฟ (Non-Flame Spreading): หากสัมผัสกับเปลวไฟ ควรจะมอดดับไปเองเมื่อนำแหล่งกำเนิดไฟออกไป หรืออย่างน้อยก็ต้องไม่ลามไฟออกไปจากจุดที่สัมผัส
ปล่อยควัน/ก๊าซพิษต่ำ (Low Smoke/Toxic Fume Emission): ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้จริง ผ้าไม่ควรปล่อยควันหนาทึบหรือก๊าซพิษที่เป็นอันตรายออกมามากเกินไป เพราะควันมักเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้
คงสภาพโครงสร้างเมื่อโดนความร้อน: ผ้าต้องคงความสมบูรณ์ทางโครงสร้างไว้ได้ระดับหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันความร้อนและเปลวไฟ
ประเภทของผ้ากันไฟที่นิยมใช้ในการป้องกันอัคคีภัย:
จากคุณสมบัติข้างต้น ผ้ากันไฟที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่:
ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric)
คุณสมบัติ: เป็นพื้นฐานของผ้ากันไฟหลายชนิด ทนความร้อนได้ประมาณ 550°C - 800°C โดยตัวใยแก้วเองไม่ติดไฟ
การประยุกต์ใช้ในการป้องกันอัคคีภัย:
ผ้าห่มกันไฟ (Fire Blankets): ใช้สำหรับดับไฟขนาดเล็ก (เช่น ไฟไหม้น้ำมันในกระทะ) หรือคลุมคนเพื่อหนีไฟ
ผ้าม่านกันสะเก็ดไฟงานเชื่อม (Welding Blankets/Screens): ป้องกันประกายไฟและสะเก็ดไฟไม่ให้ลุกลามไปติดเชื้อเพลิงอื่น
หมายเหตุ: ผ้าใยแก้วบางชนิดอาจมีการเคลือบสาร (เช่น ซิลิโคน) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทนสะเก็ดไฟ, ลดการคัน, และเพิ่มความทนทานต่อการเสียดสี แต่คุณสมบัติกันไฟหลักมาจากใยแก้ว
ผ้าซิลิก้า (Silica Fabric)
คุณสมบัติ: ทนความร้อนได้สูงกว่าผ้าใยแก้วมาก (ประมาณ 1,000°C - 1,200°C) ไม่ติดไฟ และทนทานต่อการสัมผัสเปลวไฟหรือสะเก็ดไฟร้อนจัดได้ดีเยี่ยม
การประยุกต์ใช้ในการป้องกันอัคคีภัย:
ผ้าม่านกันสะเก็ดไฟ/งานร้อนในอุตสาหกรรมหนัก: สำหรับงานเชื่อมหรือกระบวนการที่มีความร้อนรุนแรงมาก
วัสดุหุ้มฉนวนสำหรับอุปกรณ์อุณหภูมิสูง: เพื่อกักเก็บความร้อนและป้องกันอันตรายจากการสัมผัส
ผ้าเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber Fabric)
คุณสมบัติ: ทนความร้อนได้สูงสุดในกลุ่มผ้ากันไฟ (ประมาณ 1,200°C - 1,400°C) เป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีเยี่ยม และไม่ติดไฟ
การประยุกต์ใช้ในการป้องกันอัคคีภัย:
วัสดุบุภายในของเตาเผา/เตาหลอม: ทำหน้าที่เป็นฉนวนหลักและเป็นแนวป้องกันไฟ
ผ้าม่านกันไฟสำหรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงสูงสุด: ในบางอุตสาหกรรมที่อุณหภูมิสูงจัด
ผ้าม่านกันไฟอัตโนมัติ (Automatic Fire Curtains)
คุณสมบัติ: เป็นระบบที่ใช้ผ้ากันไฟ (มักเป็นผ้าใยแก้วหรือผ้าซิลิก้าที่มีการเคลือบพิเศษ) ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานการทนไฟตามระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 30 นาที, 60 นาที, 120 นาที) และสามารถทำงานร่วมกับระบบตรวจจับเพลิงไหม้ได้
การประยุกต์ใช้ในการป้องกันอัคคีภัย:
กั้นช่องเปิดขนาดใหญ่: เช่น ประตู, ช่องลิฟต์, ช่องสายพานลำเลียง เพื่อจำกัดวงของเพลิงไหม้และควันโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุ
ข้อควรระวัง:
คำว่า "ผ้ากันไฟ" (Fireproof/Fire Resistant) vs. "ผ้าหน่วงไฟ" (Fire Retardant):
Fire Resistant/Fireproof: คือผ้าที่ ไม่ติดไฟ เลย หรือทนทานต่อไฟได้ดีเยี่ยม ไม่เป็นเชื้อเพลิง (เช่น ใยแก้ว, ซิลิก้า)
Fire Retardant: คือผ้าที่ ติดไฟได้ แต่จะ ไหม้ช้า หรือ มอดดับไปเอง เมื่อนำแหล่งกำเนิดไฟออกไป (มักจะเป็นผ้าธรรมชาติหรือผ้าสังเคราะห์ที่ผ่านการเคลือบสาร) ในบริบทของการป้องกันอัคคีภัยในโรงงาน เรามักจะต้องการประเภท Fire Resistant ที่แท้จริงมากกว่า
การเลือกประเภทผ้ากันไฟที่เหมาะสมที่สุด ควรพิจารณาร่วมกับ อุณหภูมิสูงสุดที่คาดว่าจะเจอ, ลักษณะการใช้งาน, ระยะเวลาที่ต้องการให้ผ้าคงสภาพในระหว่างเกิดเหตุ, และมาตรฐานความปลอดภัยที่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม ครับ