แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 24
1
หลนเต้าเจี้ยว อาหารไทยโบราณรสชาติกลมกล่อม ทำขายเป็นอาชีพเสริม หอมมันจากกะทิและเต้าเจี้ยว

อาหารไทยมีชื่อเสียงระดับโลกในด้านรสชาติที่สดใส กลิ่นหอมของสมุนไพรและรสชาติที่สมดุลอย่างสมบูรณ์แบบ ในบรรดาอาหารพื้นเมืองมากมายที่แสดงให้เห็นถึงศิลปะการทำอาหารของไทยหลนเต้าเจี้ยวโดดเด่นด้วยน้ำจิ้มที่ทำจากถั่วเหลืองหมักรสชาติกลมกล่อม อาหารจานนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจเท่านั้น แต่ยังฝังรากลึกในการปรุงอาหารไทยแบบบ้านๆ มอบรสชาติดั้งเดิมในทุกคำที่กัด

หลนเต้าเจี้ยวเป็นอาหารไทยโบราณประเภทเครื่องจิ้มที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมมันจากกะทิและเต้าเจี้ยว มีความเปรี้ยว เค็ม หวานที่ลงตัว เป็นเมนูที่นิยมรับประทานคู่กับผักสดหลากหลายชนิด

หลนเต้าเจี้ยว คืออะไร?
หลนเต้าเจี้ยว คือน้ำจิ้มไทย (หลน)ปรุงด้วยเต้าเจี้ยวหมัก (เต้าเจี้ยว)เป็นวัตถุดิบหลัก รสชาติกลมกล่อม หอมมัน และหวานเล็กน้อย มักปรุงรสด้วยกะทิ ผสมผสานกับเครื่องเทศหอมๆ อย่างกระเทียม หอมแดง และพริก หลนเต้าเจี้ยวมีรสชาติที่กลมกล่อม ต่างจากแกงเผ็ดหรือยำไทยรสจัดจ้าน รสชาติกลมกล่อม กลมกล่อม เหมาะสำหรับทุกรสนิยม

ตามธรรมเนียมแล้ว น้ำจิ้มนี้จะเสิร์ฟพร้อมกับผักสด สมุนไพรหลากสีสัน และบางครั้งก็มีไข่ต้มด้วย ทำให้ลูกค้าสามารถตักและเพลิดเพลินกับน้ำจิ้มนี้เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารร่วมกันได้

ส่วนผสมหลัก
เต้าเจี้ยว :แหล่งหลักของรสอูมามิ
หมูบดหรือกุ้งสับ :เพิ่มโปรตีนและความเข้มข้น
กะทิ :ให้เนื้อครีมเนียนละเอียด และช่วยปรับสมดุลความเค็ม
หอมแดง กระเทียม และตะไคร้:กลิ่นหอมที่เพิ่มมิติให้กับกลิ่น
น้ำตาลปาล์ม :ความหวานอ่อนๆ ช่วยเสริมรสชาติให้กลมกล่อม
พริก :เผ็ดนิดหน่อย แต่ลอนเต้าเจี้ยวไม่เผ็ดมาก

ขั้นตอนการทำ (แบบง่ายๆ)
เคี่ยวกะทิ: ตั้งหม้อบนไฟกลาง เทหัวกะทิลงไปเคี่ยวจนเริ่มแตกมัน
โขลกเต้าเจี้ยว: นำเต้าเจี้ยวที่ล้างแล้วไปโขลกให้พอแหลก แล้วนำไปผสมกับหอมแดงที่ซอยไว้
ผัดส่วนผสม: นำเต้าเจี้ยวที่โขลกลงไปผัดกับกะทิที่เคี่ยวจนหอม จากนั้นใส่หมูสับและ/หรือกุ้งสับลงไปผัดจนสุก
ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสชาติให้ได้สามรส เปรี้ยว เค็ม และหวาน หากรสชาติยังไม่เค็มพอสามารถเติมเกลือได้เล็กน้อย
เติมส่วนผสมสุดท้าย: ใส่พริกชี้ฟ้าซอยและหอมแดงซอยที่เหลือลงไป คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟ
จัดเสิร์ฟ: ตักหลนเต้าเจี้ยวใส่ถ้วย พร้อมรับประทานกับผักสดที่เตรียมไว้
หลนเต้าเจี้ยวเป็นเมนูที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะมีการรับประทานคู่กับผักหลากหลายชนิด ทำให้ได้รับทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์และวิตามินจากผักครบถ้วน

โปรไฟล์รสชาติ
เสน่ห์ของหลนเต้าเจี้ยวอยู่ที่รสชาติที่กลมกล่อม เต้าเจี้ยวหมักให้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม กะทิช่วยขับรสชาติให้นุ่มนวล รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เติมเนื้อสัตว์หรือกุ้งลงไปเพิ่มความกลมกล่อม น้ำตาลมะพร้าวช่วยปรับสมดุลความเค็มด้วยความหวานเล็กน้อย เป็นเมนูที่ให้ความรู้สึกอิ่มท้อง อ่อนโยน และอบอุ่น เหมาะสำหรับรับประทานเป็นครอบครัว

วิธีการเสิร์ฟ
หลนเต้าเจี้ยวมักจะเพลิดเพลินกับ:
ผักสด:แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือยาว กะหล่ำปลี
ผักต้มหรือผักนึ่ง:ฟักทอง, ผักบุ้ง, หรือน้ำเต้า
ไข่ลวก:เครื่องเคียงที่อร่อยเข้มข้น
ข้าวสวย :ทานให้อิ่มอร่อยยิ่งขึ้น
ซึ่งทำให้ไม่เพียงแต่มีรสชาติดีเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสมดุล อีกด้วย เนื่องจากส่งเสริมให้บริโภคผลผลิตสดตามฤดูกาล

ความสำคัญทางวัฒนธรรม
ในประเทศไทย น้ำจิ้มอย่างหลนเต้าเจี้ยวเป็นอาหารหลักในชีวิตประจำวัน หลนเต้าเจี้ยวเปรียบเสมือนการรับประทานอาหารร่วมกัน ที่ซึ่งเพื่อนฝูงและครอบครัวจะมารวมตัวกันรอบโต๊ะเพื่อแบ่งปันอาหารหลากหลายชนิด แม้ว่าหลนเต้าเจี้ยวจะไม่โด่งดังในระดับนานาชาติเท่าผัดไทยหรือต้มยำ แต่หลนเต้าเจี้ยวก็ได้รับความนิยมในท้องถิ่นในฐานะอาหารที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับความอบอุ่นของอาหารปรุงเองที่บ้าน

ทำไมคุณควรลอง
มีรสชาติอ่อนกว่าอาหารไทยหลายๆ เมนู จึงเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
เข้ากันได้ดีกับผักสด เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ
ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ การรับประทาน อาหารแบบไทยๆ ที่บ้าน อย่างแท้จริง

หลนเต้าเจี้ยวจิ่วไม่ได้เป็นแค่น้ำจิ้มธรรมดาๆ แต่มันคือเครื่องสะท้อนถึงความสมดุลและการต้อนรับขับสู้แบบไทยๆ ด้วยรสชาติที่เข้มข้นแต่กลมกล่อม วัตถุดิบที่เปี่ยมคุณค่าทางโภชนาการ และรูปแบบการรับประทานอาหารแบบชุมชน อาหารจานนี้จึงเป็นเมนูที่ต้องลองสำหรับทุกคนที่ต้องการสัมผัสแก่นแท้ของอาหารไทย ไม่ว่าจะรับประทานที่ร้านอาหารท้องถิ่นหรือปรุงเองที่บ้าน ลนเต้าเจี้ยวจิ่วจะทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารไทยแท้ๆ




2
จัดฟันบางนา: ไขข้อสงสัย กับ 10 คำถามยอดนิยม เกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส

เชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะรู้จัก การจัดฟันแบบใส หรือ Invisalign System กันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่สำหรับหลายๆคนที่มองหาการจัดฟันอยู่เชื่อได้เลยว่าน่าจะศึกษาการจัดฟันรูปแบบนี้มาแล้ว

ซึ่งการจัดฟันแบบใสนั้นถือว่าเป็นนวัตกรรมการจัดฟันรูปแบบใหม่ ที่มีประสิทธิภาพในการจัดฟันสูง และปลอดภัย รวมถึงนำเอาเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายเข้ามาเป็นส่วนในการช่วยวางแผนการจัดฟันให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามเนื่องจากว่าการจัดฟันในรูปแบบนี้เป็นการจัดฟันที่เรียกได้ว่านำเข้ามาในประเทศไทยไม่นาน จึงทำให้เกิดการตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการจัดฟันในรูปแบบนี้

โดยในวันนี้จะขอรวบรวมข้อสงสัยต่างๆที่เรียกได้ว่ามีผู้คนที่ให้ความสนใจการจัดฟันในรูปแบบนี้ถามกันเข้ามามากมาย โดยเราจะขอมาไขคำตอบกัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส Invisalign ?

– การจัดฟันแบบใส Invisalign คืออะไร ?

คือการจัดฟัน แบบไร้ลวดเหล็ก ซึ่งตัวอุปกรณ์นั้นมีความใส และสามารถถอดใส่ได้เอง โดยตัวเครื่องมือในการจัดฟันจะถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล และจะทำการเปลี่ยนทุกๆ 2 สัปดาห์ จุดเด่นๆคือ ใส่สบาย ทำความสะอาดได้ง่าย


– ขั้นตอนการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใสทำอย่างไร ?

ก่อนอื่นเลยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการวางแผนโดยการใช้คอมพิวเตอร์แบบ 3D มาเป็นเครื่องมือช่วยร่วมด้วย ถ่ายรูปช่องปากรวมถึงใบหน้า ปัญหาต่างๆของผู้ที่จะทำการจัดฟันแบบใส Invisalign และส่งไปให้ทางด้านของห้องแล็บเพื่อผลิตอุปกรณ์จัดฟันเฉพาะบุคคล

ทันตแพย์จะนัดวัดมารับอุปกรณ์จัดฟัน และเมื่อได้รับอุปกรณ์แล้วในช่วงแรกให้ใส่ติดป่กไว้เลยวันละประมาณ 20-22 ชั่วโมง แนะนำว่าให้ถอดเฉพาะตอนที่รับประทานอาหารและแปรงฟันเท่านั้น รวมถึงมาตามทันตแพทย์นัดทุกครั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อวางแผนให้ฟันเข้ารูปได้อย่างรวดเร็ว


– ข้อดีของการจัดฟันแบบใส Invisalign คืออะไร ?

ข้อดีหลักๆเลยก็คือสามารถจัดฟันโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าคุณกำลังทำการจัดฟัน ไม่มีลวดจัดฟันแบบเก่าให้เห็น เพื่อไม่ให้เสียบุคลิก ไม่มีการระคายเคืองในช่องปากแบบการจัดฟันแบบเก่าที่มีอุปกรณ์แปลกปลอมในช่องปาก ถอดง่ายใส่สะดวกดูแลรักษาอุปกรณ์และช่องปากให้สะอาดได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีการวางแผลทุกอย่างจนถึงขั้นตอนสุดท้ายตั้งแต่ครั้งแรกที่พบทันตแพทย์ จึงทำให้ฟันเข้ารูปได้รวดเร็วกว่า


– มีคนสนใจจัดฟันแบบใส Invisalign มาน้อยขนาดไหน ?

ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบันนี้ มีคนทำการจัดฟันแบบใส Invisalign ไปแล้วกว่า 2.3 ล้านคนทั่วโลก และยังคงมีคนให้ความสนใจและเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง


– ระยะเวลาในการจัดฟันแบบใส Invisalign ?

ต้องขอบอกเลยว่าไม่อาจจะบอกออกมาเป็นระยะเวลาแบบเปะๆได้ เนื่องจากว่าระยะเวลาส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับปัญหาความซับซ้อนในช่องปากของแต่ละบุคคล แต่โดยรวมแล้วในเรื่องของระยะเวลาก็ไม่ต่างจากการจัดฟันแบบอื่นนัก


– จำกัดอายุในการจัดฟันแบบใส Invisalign หรือไม่ ?

ไม่มีการจำกัดอายุแต่อย่างใด สามารถทำได้ทุกช่วงวัย


– การจัดฟันแบบใส Invisalign จำเป็นต้องถอนฟันหรือไม่ ?

ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา รวมถึงการวินิจฉัยของทันแพทย์ ในการตัดสินใจว่าจำเป็นต้องถอนหรือไม่


– การจัดฟันแบบใส Invisalign เจ็บปวดหรือไม่ ?

ต้องบอกเลยว่าอาจจะมีความอึดอัด และมีอาการปวดบ้างในช่วง 2-3 วันแรก เนื่องจากว่าอุปกรณ์จะทำการเคลื่อนที่ฟันให้เข้าสู่ตำแหน่งตามที่ต้องการเพื่อให้ฟันเข้าที่สวยงาม


– ใส่อุปกรณ์ Invisalign เฉพาะตอนกลางคืน หรือตอนนอนอย่างเดียวได้หรือไม่ ?

ขอบอกเลยว่าไม่ได้ เนื่องจากว่าช่วงเวลาตอนนอนนั้นสั้นเกินไปที่จะทำให้ฟันของท่านเกิดการเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่ต้องการ จึงควรใส่อุปกรณ์ Invisalign ให้ติดปากไว้ประมาณ 20-22 ชั่วโมง/วัน


– ต้องใส่รีเทนเนอร์ หลังจากการจัดฟันแบบใส Invisalign หรือไม่ ?

ต้องขอบอกเลยว่า รีเทนเนอร์คืออุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากหลังจากการจัดฟัน ไม่ว่าท่านจะจัดฟันแบบไหนก็ตาม เนื่องจาก รีเทนเนอร์จะทำหน้าที่คงสภาพฟันของท่านให้สวยงามถาวร ไม่ใช่อุปกรณ์จัดฟันแต่อย่างใด

3
หมอออนไลน์: ภาวะมีน้ำในเยื่อหุ้มปอด (Pleural Effusion)

ภาวะมีน้ำในเยื่อหุ้มปอด (Pleural Effusion) คือภาวะที่มีของเหลวสะสมอยู่ในช่องเยื่อหุ้มปอดมากเกินไป ช่องเยื่อหุ้มปอดเป็นช่องว่างบาง ๆ ระหว่างเยื่อหุ้มปอด (Pleura) สองชั้นที่หุ้มปอดและบุผนังช่องอก โดยปกติจะมีของเหลวเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยหล่อลื่นและให้ปอดขยายตัวได้อย่างราบรื่น

สาเหตุ
ภาวะนี้ไม่ได้เป็นโรคในตัวเอง แต่เป็นอาการแสดงของโรคหรือภาวะอื่น ๆ โดยสาเหตุที่พบบ่อยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:

น้ำซึม (Transudative Effusion): เกิดจากความดันในหลอดเลือดสูงขึ้นหรือระดับโปรตีนในเลือดต่ำ ทำให้ของเหลวรั่วซึมออกมา

ภาวะหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure): เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด


ภาวะตับแข็ง

น้ำอักเสบ (Exudative Effusion): เกิดจากการอักเสบ การติดเชื้อ หรือการบาดเจ็บของเยื่อหุ้มปอด ทำให้เยื่อบุหลอดเลือดมีการรั่วซึมมากขึ้น

ปอดอักเสบติดเชื้อ (Pneumonia) และการติดเชื้ออื่น ๆ เช่น วัณโรค

โรคมะเร็ง: มะเร็งปอด มะเร็งที่แพร่กระจายมายังปอดหรือเยื่อหุ้มปอด

ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism)

โรคภูมิต้านตนเอง (Autoimmune Disorders) เช่น โรคลูปัส (Lupus)


อาการ

อาการขึ้นอยู่กับปริมาณของน้ำและสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะนี้ โดยทั่วไปมักมีอาการดังนี้:

หายใจลำบาก (Shortness of Breath): เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะเมื่อปริมาณน้ำมีมาก เพราะของเหลวจะไปกดทับปอด ทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่

เจ็บหน้าอก (Chest Pain): มักเป็นอาการปวดแปลบ ๆ ที่จะแย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึก ๆ หรือไอ

ไอแห้ง (Dry Cough)

อาจมี ไข้ และอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย หากสาเหตุมาจากภาวะติดเชื้อ


การรักษา

การรักษาภาวะมีน้ำในเยื่อหุ้มปอดที่สำคัญที่สุดคือการ รักษาโรคที่เป็นสาเหตุหลัก ควบคู่ไปกับการระบายน้ำส่วนเกินออก

การรักษาตามสาเหตุ:

หากเกิดจาก หัวใจล้มเหลว แพทย์จะให้ยาขับปัสสาวะและยารักษาหัวใจ

หากเกิดจาก การติดเชื้อ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส หรือยาต้านเชื้อรา

หากเกิดจาก มะเร็ง อาจมีการให้เคมีบำบัด หรือรังสีรักษา


การระบายน้ำ:

การเจาะปอด (Thoracentesis): ใช้เข็มหรือท่อขนาดเล็กเจาะผ่านช่องอกเพื่อดูดน้ำออกมา เพื่อลดแรงกดทับต่อปอด

การใส่ท่อระบายทรวงอก (Chest Tube): ในกรณีที่มีน้ำปริมาณมาก หรือมีภาวะหนองในเยื่อหุ้มปอด

การเชื่อมเยื่อหุ้มปอด (Pleurodesis): เป็นการฉีดสารบางอย่าง (เช่น แป้งทัลก์) เข้าไปในช่องเยื่อหุ้มปอด เพื่อทำให้เยื่อหุ้มปอดทั้งสองชั้นเชื่อมติดกัน วิธีนี้มักใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีน้ำกลับมาสะสมซ้ำบ่อย ๆ เช่น ในผู้ป่วยมะเร็ง

4
คุณภาพในการให้บริการ รถหกล้อรับจ้าง จังหวัดขอนแก่น พร้อมประกันสินค้า

คุณภาพในการให้บริการ รถกระบะรับจ้างจังหวัดขอนแก่น พร้อมประกันสินค้า การให้บริการ รถกระบะรับจ้างจังหวัดขอนแก่น และ รถหกล้อรับจ้างขนของขอนแก่น ที่พร้อมมีคุณภาพด้านการขนย้ายที่ครบวงจรอีกทั้งยังมีการประกันสินค้าให้แก่ลูกค้าทุกชนิดความกังวลที่เกิดขึ้นลูกค้าอาจจะต้องตัดไปได้เลยเพราะการให้ประกันในการขนย้ายทุกตลาดเส้นทางหากมีสินค้าใดสินค้าหนึ่งเกิดการชำรุดเสียหาย

หรือมีรอยทางเราทีมงานรถรับจ้างขนของ นนท์รถกระบะรับจ้างสามารถที่จะดูแลและชดใช้ให้ได้นั่นเองแต่การขนย้ายในแต่ละครั้งก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพราะเรามีมาตรการและวิธีปฏิบัติการณ์ในการป้องกันของการขนย้ายเพื่อให้ลดการเกิดความเสียหายในขณะที่ให้บริการรถกระบะรับจ้างหรือรถหกล้อรับจ้างขนของได้ที่เรารับจ้างขนย้ายบ้านขอนแก่น ขนย้ายห้องเช่า ย้ายหอหรือคอนโดอพาร์ทเม้นท์คนละสำนักงานแต่

การเตรียมการขนของนั้นจะต้องมีการจัดเก็บให้พร้อมแต่หากเป็นของที่ไม่แตกหักง่ายก็จะแยกประเภทแต่อันไหนที่เปลาะหรือแตกหักง่ายก็จะแยกใส่บรรจุหีบห่อหรือกล่องนั้นเองเพราะการบรรจุลงในหีบพอหรือกล่องนั้นทางทีมงานจะมีวิธีการจัดวางที่ลดความเสี่ยงหรือเกิดการเสียหายได้อย่างเหมาะสมทำการวางซ้อนเพื่อลดการกระแทกได้เป็นอย่างดีดังนั้นทีมงานรถกระบะรับจ้างอย่าง รถรับจ้างขอนแก่นราคาถูกยินดีที่จะให้บริการรับจ้างขนของสามารถติดต่อได้


หากทุกท่านนึกถึงรถรับจ้างขนของก็สามารถที่จะดูข้อมูลตรวจเช็คความน่าเชื่อถือที่จะใช้บริการและดูว่ารถจะมารับจ้างคนย้ายของหรือรถหกล้อรับจ้างขนของนั้นมีขนาดที่จะเพียงพอต่อการสั่งสินค้าของท่านหรือไม่ การให้บริการรถกระบะรับจ้างขนของที่ดีมีคุณภาพที่สุดก็คือลูกค้านั้นจะได้ใช้รถรับจ้างที่ครบวงจรและจบในหนึ่ง

เดียวจึงไม่แปลกเลยว่าทำไมคุณลูกค้านั้นจึงมีความสนใจที่จะเข้ามาใช้บริการรถกระบะรับจ้างขนของหรือรถหกล้อรับจ้างขนของนั่นเองเพราะว่าการให้บริการที่ไม่ขาดสายและมีการใส่ใจในงานของคุณลูกค้าตลอดการขนย้ายอีกทั้งยังได้รับการให้บริการ ที่ดีที่สุดและยังคงให้ราคาที่ไม่แพงมีมาตรการและวิธีป้องกันในการป้องกัน

ของเสียหายที่เกิดขึ้นได้และมีบริการ รถรับจ้างขนของ ที่สามารถจะติดต่อให้แก่ลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อคุณจะต้องทำการขนย้ายหอคนย้ายห้องคุณยายบ้านหรือขนย้ายที่พักขนย้ายสินค้าต่างๆก็ต้องมีความพร้อมในการให้บริการหากลูกค้าจะอยู่ชั้นสองหรือชั้นสามก็ตามทางเราก็พร้อมยินดีที่จะให้คนขับช่วยบริการยกและขนย้ายของนั่นเองค่ะในการขนย้ายลักษณะงานจะมีความแตกต่างกันไปลูกค้าบางคนอาจจะคนย้ายห้องเช่าที่ อยู่ชั้น

สามหรือชั้นสี่ที่มีการยกของหรือมีความยากง่ายแตกต่างกันออกไปทางเราก็ยินดีที่จะให้บริการสำหรับการคนย้ายที่อยู่อาศัยทุกตรอกซอกซอยนั่นเองค่ะไม่ว่าจะขนย้ายในพื้นที่หรือต่างอำเภอต่างจังหวัดก็ยินดีที่จะให้บริการรถรับจ้างขนของของเราเป็นรถที่สะอาดสภาพพร้อมใช้งานบริการราคาถูกและให้บริการด้วยความเป็นธรรมราคาเป็นมิตรอย่าลืมติดต่อใช้บริการรถกระบะรับจ้างขนของขอนแก่น

รถรับจ้าง รถรับจ้างย้ายบ้านขอนแก่นราคาถูก ได้นะคะเพราะเรามีจุดประสงค์หนึ่งเดียวคือการขนย้ายที่สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีและสามารถที่จะตอบโจทย์การขนย้ายของให้แก่ลูกค้าในทุกรูปแบบเพราะการเคลื่อนย้ายในแต่ละครั้งนั้นจะค่อนข้างยุ่งยากหรือลูกค้าอาจจะไม่ต้องการที่จะทำการ

โยกย้ายสินค้าเองทางเรามีพนักงานที่เป็นมืออาชีพสำหรับการจัดเตรียมการยกสินค้าหรือการถอดประกอบสินค้าให้แก่ลูกค้าตามข้อตกลงที่ลูกค้าเรียกร้องให้แก่บริษัทรถรับจ้างอย่างโน้นรถกระบะรับจ้างนั่นเองค่ะติดต่อรถรับจ้างขอนแก่น




5
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


6
จัดฟันเด็ก อันตรายหรือไม่

ในเรื่องของสุขาพช่องปากและฟันของเด็ก เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องคอยสังเกตและให้คำแนะนำถึงวิธีการทำความสะอาดช่องปากและหันอย่างถูกวิธี เพราะเด็กส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องของฟันผุ เนื่องจากได้รับการทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น การทำควมาสะอาดช่องปากและฟันของเด็ก พ่อแม่อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ถึงแม้ว่าบุตรหลานของท่านจะอยู่ในวัยของฟันน้ำนม เพราะถ้าหากดุแลฟันน้ำนมไม่ดี อาจจะทำให้ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ได้ ซึ่งเมื่อฟันแท้ขึ้นแบบผิดปกติ อาจจะส่งผลระยะยาวเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันได้ เพราะการที่เรามีปัญหาในเรื่องของการเรียงตัวของฟัน อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของลูก เพราะจะทำให้เด็กไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและอาจจะส่งผลต่อสุขภาพช่องปากเด็กด้วย

และถ้าหากบุตรหลานของ่ทานมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน หรือมีความผิดปกติ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาที่มีความผิดปกติของฟันได้ ตั้งแต่ยังมีฟันน้ำนมเลย ส่วนใหญ่พ่อแม่ที่ตัดสินใจจะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับกการจัดฟันในเด็ก อาจจะมีความกังวลว่า บุตรหลานของท่านจะได้รับอันตรายหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า ความผิดปกติของฟันที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจาก ลักษณะนิสัยที่มีความผิดปกติในการบดเคี้ยว เช่น เคี้ยวข้าวข้างเดียวตลอดเวลา หรือ บางกรณีก็จะเป็นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพของร่างกาย การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของขากรรไกร โดยการจัดฟันก็จะช่วย ทำให้ฟันนั้นมีความสวยงามเป็นระเบียบ พร้อมกับทำให้ฟันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยและวันนี้เราจะมาพูดถึงการจัดฟันในเด็กว่า มีอันตรายต่อเด็กหรือไม่ และต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อให้เด็กได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย

ก่อนอื่นเราจะอธิบายก่อนว่า การจัดฟัน เป็นหนึ่งในประเภทการรักษาฟันที่ได้รับความนิยมาก โดยใช้หลักการในการรักษาด้วยการเคลื่อนฟันไปยังตําแหน่งที่เหมาะสม โดยอาศัยเครื่องมือการจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันในแต่ละแบบนั้น ก็จะมีความแตกต่างกัน ซึ่งทันตแพทย์จะพิจารณาให้อย่างเหมาะสม แต่สำหรับการจัดฟันในเด็ก ก็ไม่ต่างจากการจัดฟันของผู้ใหญ่มาก เพราะใช้หลักการเดียวกัน คือมีการติดตั้งเครื่องใอเข้าไปในช่องปาก โดบเครื่องมือการจัดฟันจะเป็นตัวช่วยในการเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้เกิดการเรียงตัวของฟันที่สวยงาม

สำหรับเด็กที่มีปัญหาฟันซ้อนเก หรือมีการสบฟันที่ผิดปกติ เครื่องมือจัดฟันก็จะทำให้ฟันที่มีคาวมผิดปกติเคลื่อนไปในที่ที่เหมาะสมเหมือนกัน ดังนั้น การจัดฟันในเด็ก จึงไม่มีอันตราย และไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายของเด็ก มีแต่จะส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ทั้งยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็กให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ก่อนที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะตัดสินใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ควรที่จะศึกษารายละเอียดและข้อมูลให้ดี เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้รับการรักษาที่มีความปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อที่จะได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี มีคุณภาพที่ชีวิตที่ดี เพราะการที่เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีนั้น นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของบุคลิกภาพ ให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก ไม่ต้องโดนเพื่อนล้อด้วย

อย่างไรก็ตาม หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการรักษาได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันในเด็ก และมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน ที่จะคอยให้คำแนะนำและวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้มีพัฒนาการที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

7
รถรับจ้างย้ายบ้านจังหวัดภูเก็ต ราคาเบาๆที่จะได้บริการรับจ้างขนของท่าน กระบะ 6ล้อ อื่นๆ

บริการ รถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต ผู้นำด้านงานบริการตัวจริง รับจ้างขนของ ทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในภาคใต้ทุกจังหวัด และวิ่งไปทั่วประเทศ เราให้บริการ งาน รับจ้างขนย้ายบ้าน ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ ขนย้ายหอพัก ขนย้ายคอนโด วัสดุก่อสร้าง วัตถุดิบทางการเกษตร รับจ้างขนของทั่วไป ด้วย บริการงาน รถกระบะรับจ้างจังหวัดภูเก็ต รถรับจ้างขนของจังหวัดภูเก็ต รถ6ล้อรับจ้างจังหวัดภูเก็ต รถ10ล้อรับจ้างจังหวัดภูเก็ต

รถเฮี๊ยบรับจ้างจังหวัดภูเก็ต และ รถรับจ้างทั่วไป พร้อมที่จะให้บริการท่าน ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบกระบะคอกสูงมีผ้าใบคลุมและแบบตู้ทึบ ทุก รถรับจ้าง ของเรา สามารถให้บริการงานรับจ้างที่หลากหลายไม่ว่าท่านต้องการจะขนย้ายอะไรเราก็พร้อมให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยประสบการณ์ การบริการมากว่า 10 ปี เรามีความมั่นใจ ที่จะบริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับรองว่า ท่านจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายให้เราอย่างแน่นอน ที่สำคัญ งานที่ออกมา รับประกันเลยว่า มีคุณภาพและราคาเบาๆ ตรวจสอบราคากันได้ ง่ายๆ กลับขนส่งได้

จังหวัดภูเก็ตนั้น ต้องบอกว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งอันดามัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหรือจะเป็นทางประวัติศาสตร์ ใครที่มาเที่ยวภูเก็ตแน่นอนว่า ไม่มีวันลืมในความสวยงามของทะเล แห่งอันดามัน อย่างแน่นอน รถรับจ้างขนของจังหวัดภูเก็ต ของเรานั้น มีความชำนาญในทุกเส้นทางในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่นๆเพราะเราให้ บริการงานรับจ้างขนของ มาเป็นระยะเวลายาวนานจึงทำให้เรารู้ทุกซอกทุกมุมของ จังหวัดนี้ หากเป็นงานที่ไม่ใหญ่มาก เช่นงาน ย้ายหอ พักย้ายคอนโด ขนย้ายบ้าน ส่วนใหญ่ ก็จะใช้ รถกระบะรับจ้างภูเก็ต เพราะจะมีความสะดวกและคล่องตัวในถนนที่มีขนาดแคบ หรือถ้าสินค้าเยอะหน่อยหรือย้ายบ้านก็จะเป็น รถ 6 ล้อรับจ้างภูเก็ต ซึ่งทั้งสองบริการของรถ ส่วนใหญ่จะใช้อยู่เป็นประจำสำหรับท่านที่มาเที่ยวจังหวัดภูเก็ตวันนี้ ทีมงานรถรับจ้างของเราอยากจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่ท่านมาจังหวัดภูเก็ตแล้วจะต้องมาถึงให้ได้ นั่นก็คือ

1.วัดฉลอง เป็นวัดที่มีชื่อเสียงอีกวัดหนึ่ง อาจจะเรียกชื่อเป็นทางการว่า วัดชัยธาราม ถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดภูเก็ต ใครที่ผ่านและมาต้องเข้ามานมัสการหลวงพ่อแช่ม เพื่อจะได้เป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร จะเป็นอนุสาวรีย์ของสองวีรสตรี ของประเทศไทย ถือว่าเป็นวีรสตรี ที่เป็นแบบอย่างของหญิงไทยและได้รับการยกย่อง แห่งเมืองถลาง ใครที่ผ่านมาอย่าลืมเข้ามาสักการะอนุสาวรีย์ ด้วยนะครับ

3.วัดพระทอง เป็นพระพุทธรูปที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินเพียงแค่ครึ่งองค์ มีประวัติเล่าขานมาว่าสมัยที่พม่ายกทัพมา จะทำการขุดเอา พระพุทธรูปกลับเมืองพม่าแต่ขุดลงไปเท่าไหร่ก็โดนแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายามจนเลิกขุด

4.แหลมพรหมเทพ เป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงในเรื่องของจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ยิ่งวันไหนที่อากาศแจ่มใสไม่มีเมฆหมอก การดูพระอาทิตย์ตกจะสวยมากๆ และยังมีต้นตาลที่ขึ้นแทรก เรียงราย ไปยังแหลมพรหมเทพอย่างสวยงาม

5.หาดป่าตอง สำหรับใครที่ต้องการมาเดินตลาดนัด ถนนคนเดินต้องที่นี่เลยหาดป่าตองเป็นสถานที่ คึกคักเพราะจะมีทั้งห้างร้านและรีสอร์ทจำนวนมากมาคอยบริการนักท่องเที่ยว

6.เกาะเฮ เป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งมากนักประมาณเพียงแค่ 10 กิโลท่านสามารถที่จะนั่งเรือสปีดโบ๊ท หรือเรือหางยาวมาที่เกาะนี้ได้ เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลที่สวยใสอากาศสดชื่นสามารถนั่งนอนเล่นน้ำได้ทั้งวันที่สำคัญราคาที่พักก็ไม่แพงอีกด้วย

7.หาดราไวย์ เป็นหาดที่ใครๆมาเที่ยวแล้วจะต้องมาลิ้มรสอาหารทะเลที่สดและใหม่อร่อย สถานที่นี้เหมาะมากๆที่จะพากันมาเป็นครอบครัวเพื่อมานั่งกินอาหาร

8.หาดกะตะกะรน เป็นหาดที่ชาวต่างชาติชอบมานอนเล่นตามชายหาดนอนอาบแดด ถือว่าเป็นหาดที่มีความสวยไม่แพ้หาดป่าตองเลยทีเดียว

นี่ก็เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตซึ่งทีมงาน รถรับจ้างจังหวัดภูเก็ต ของเรา เอาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงามในจังหวัดมาฝาก แต่หากใครที่ติดตาม เว็บไซต์ของเราอยู่ตลอด เราก็จะมีการอัพเดทข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวหรือ ข้อมูลงาน และกิจกรรมในจังหวัดภูเก็ตมาอัพเดทให้ท่านอยู่เสมอๆ อย่าลืมนะครับ ถ้าหากท่านต้องเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต ไม่ว่าจะมาท่องเที่ยว หรือต้องการย้ายที่อยู่มายังจังหวัดภูเก็ตหรือบางทีอาจจะย้ายจากภูเก็ตไปยังต่างจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศไทย ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไม่ว่าท่านจะไปที่ไหน จะขนย้ายอะไรเรามีรถบริการ รถขนของรับจ้างจังหวัดภูเก็ต  คอยบริการท่านอยู่ทุกวัน ทั้ง รถหกล้อรับจ้าง รถกระบะรับจ้าง รถสิบล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง ที่พร้อมจะให้บริการ รับจ้างขนของ จากท่านตลอดทั้งวันไม่มีวันหยุด โทรมานะคะ

8
บริการด้านอาหาร: ซุปบร็อคโคลี เมนูง่ายๆ ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
 
หลายคนที่กำลังลดน้ำหนัก อาจเคยเจอปัญหาน้ำหนักไม่ลดน้อยลงเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหาร นับเป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักที่สำคัญ ที่เป็นเช่นนั้นอาจเกิดจากระบบเผาผลาญเสื่อม ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากภายในร่างกาย และเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้การลดน้ำหนักล้มเหลว โดยระบบเผาผลาญเสื่อมก็มีสาเหตุหลายอย่างด้วยกัน ทั้งแบบที่สามารถรักษาได้และรักษาไม่ได้ โดยปกติร่างกายคนเรามีการเผาผลาญตลอดเวลา แม้ในระหว่างนอนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ ร่างกายก็ยังมีการเผาผลาญไปด้วย
โดยแต่ละบุคคลจะมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานแตกต่างกันออกไป และเมื่อร่างกายมีการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือมีการใช้แรง เช่น เดิน พูดคุย ร่างกายก็จะมีอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ขณะที่ร่างกายทำการย่อยอาหารและดูดซึมก็มีการเผาผลาญเกิดขึ้นเช่นกัน ดังนั้น การกระตุ้นการเผาผลาญ จึงสามารถช่วยทำให้ร่างกายของเรามีการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ มีประสิทธิภาพ  และไม่เกิดสารอนุมูลอิสระที่เป็นโทษในปริมาณมาก

ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำเมนูอาหารที่ช่วยในการกระตุ้นระบบเผาผลาญ นั่นก็คือ เมนูซุปบร็อคโคลี เป็นเมนูที่รับประทานง่าย และดีต่อสุขภาพอีกด้วย ซึ่งถือว่ากลุ่มคนรักสุขภาพที่นิยมรับประทานบร็อคโคลีดิบด้วย ซึ่งถ้าล้างให้ดีก่อนก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่
 
ซึ่งต้องบอกก่อนว่า บร็อคโคลี ถือเป็นผักมีไฟเบอร์สูงมาก แถมยังสามารถละลายในน้ำได้ดี ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ มีวิตามินและธาตุเหล็กสูง แถมยังวิตามินซีสูง ช่วยลดการดูดซึมไขมันได้ดี เป็นอาหารลดไขมันที่ช่วยบำรุงสุขภาพและบำรุงผิวของเราด้วย ถือว่าเป็นผักที่เหมาะกับเมนูอาหารสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน แถมยังดีต่อการกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราได้เป็นอย่างดี

สำหรับวัตถุดิบในการเมนูสุขภาพนี้ก็คือ น้ำซุปผัก บร็อคโคลี นมสดรสจืด มันฝรั่ง หอมใหญ่ กระเทียม  น้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย เครื่องเทศสำหรับปรุงรส สำหรับขั้นตอนการทำก็ง่ายเพียงแค่ ลวกบร็อคโคลีให้สุกในน้ำเดือดจัดประมาณ 10 วินาที จากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำเย็น จากนั้นตั้งกระทะผัดหอมใหญ่ มันฝรั่งและกระเทียมให้พอสุก ใส่บร็อคโคลีลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องเทศตามชอบ จากนั้นใส่น้ำซุปผักลงไปและเคี่ยวประมาณ 20-30 นาที รอจนเย็นและนำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อเนียน เป็นอันเสร็จ ซึ่งวิธีการทำต้องบอกว่าง่าย แถมเราจะได้เมนูสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากจะช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกายของเราแล้ว ยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

 
บำรุงผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน เรื่องจากบร็อคโคลี่เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยสามารถป้องกันอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์และทำลาย DNA ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง

ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งผักในตระกูลกะหล่ำ มีความสัมพันธ์กับการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองได้ ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บร็อคโคลีก็เป็นแค่ผักชนิดหนึ่งเท่านั้น เราจะเอามากินเป็นอาหารหลักโดยไม่สนใจความสมดุลย์ของพลังงานและสารอาหารก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ควรระวังเรื่องระดับน้ำตาลด้วย เพราะว่าวิตามินเคที่ได้จากบร็อคโคลี อาจจะไปมีผลต่อยาลดน้ำตาลที่รับประทานอยู่ได้ ถ้าไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง


ดังนั้น ทางเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกรับประทานให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ดื่มน้ำให้มากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ที่จะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ และห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ

9

“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


10
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ปอดอักเสบ/ปอดบวม (Pneumonia)

ปอดอักเสบ (ปอดบวม นิวโมเนีย ก็เรียก) หมายถึง การอักเสบของเนื้อปอด (ซึ่งประกอบด้วย ถุงลมปอดและเนื้อเยื่อโดยรอบ) ทำให้ปอดทำหน้าที่ได้น้อยลง เกิดอาการหายใจหอบเหนื่อย และอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้

โรคนี้เกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย จึงมีอาการแสดงและความรุนแรงในลักษณะต่าง ๆ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทั่วไปและคนทุกวัย มีโอกาสพบมากขึ้นในบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (เช่น หลอดลมพอง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมปอดโป่งพอง โรคหืดเรื้อรัง) หรือหัวใจวายเรื้อรัง ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์จัด และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกน้ำหนักน้อย เด็กขาดอาหาร ผู้ที่กินยาสเตียรอยด์ประจำ ผู้ป่วยเอดส์ เบาหวาน ตับแข็ง ไตวายเรื้อรัง มะเร็ง เป็นต้น

อาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส โรคมือ-เท้า-ปาก ไอกรน ทอนซิลอักเสบ หลอดอักเสบ ครู้ป หลอดลมพอง หลอดลมฝอยอักเสบ และโรคติดเชื้อของระบบอื่น (เช่น ไทฟอยด์ สครับไทฟัส เล็ปโตสไปโรซิส เป็นต้น)

ผู้ป่วยที่ฉีดยาด้วยเข็มที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ (เช่น ฉีดยาเสพติด) ก็มีโอกาสติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัสกลายเป็นโรคปอดอักเสบชนิดร้ายแรงได้

บางครั้งอาจพบในผู้ที่สำลักสารเคมี (ที่สำคัญคือ น้ำมัน เช่น น้ำมันก๊าด เบนซิน) น้ำย่อยในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน น้ำและสิ่งปนเปื้อน (ในผู้ป่วยจมน้ำ) หรือเศษอาหาร (ซึ่งมักพบในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยอัมพาต ลมชัก หมดสติ ดื่มแอลกอฮอล์จัด) ทำให้ปอดอักเสบ จากการระคายเคืองของสารเคมี หรือการติดเชื้อ เรียกว่าปอดอักเสบจากการสำลัก (aspiration pneumonia)


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ ส่วนน้อยเกิดจากสารเคมี การติดเชื้อที่สำคัญ มีดังนี้ 

    การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบที่พบได้บ่อยสุดในคนทุกวัยได้แก่ เชื้อปอดบวม ที่มีชื่อว่า นิวโมค็อกคัส (pneumococcus) หรือ สเตรปโตค็อกคัสนิวโมเนีย (Streptococcus pneumoniae) มักทำให้เกิดอาการปอดอักเสบเฉียบพลันและรุนแรง

นอกจากนี้อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น ๆ เช่น อีโมฟิลุสอินฟลูเอนเซ (Hemophilus influenzae) ซึ่งเป็นสาเหตุของปอดอักเสบในทารกและผู้ป่วยหลอดลมอักเสบเรื้อรัง สแตฟีโลค็อกคัสออเรียส (Staphylococcus aureus) ซึ่งทำให้เกิดปอดอักเสบชนิดร้ายแรง พบบ่อยในผู้ที่ฉีดยาเสพติดด้วยเข็มที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ และอาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัดใหญ่ เชื้อเคล็บซิลลา (Klebsiella pneumoniae) ซึ่งทำให้เป็นปอดอักเสบชนิดร้ายแรงในผู้ป่วยที่ดื่มแอลกอฮอล์จัด กลุ่มแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน (anaerobes) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปอดอักเสบจากการสำลัก เชื้อลีจันเนลลา (Legionella) ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปตามระบบปรับอากาศ (เช่น ห้องพักในโรงแรม หรือโรงพยาบาล) เชื้อเมลิออยโดซิส ซึ่งพบมากทางภาคอีสาน เชื้อคลามีเดีย (Chlamydia pneumoniae) ซึ่งพบบ่อยในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว เป็นต้น
 
    การติดเชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนีย (Mycoplasma pneumoniae) ซึ่งเป็นเชื้อคล้ายแบคทีเรียแต่ไม่มีผนังเชลล์ จัดว่าอยู่ก้ำกึ่งระหว่างไวรัสกับแบคทีเรีย มักทำให้เกิดปอดอักเสบที่มีอาการไม่ชัดเจน (มีอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อย คล้ายไข้หวัดใหญ่หรือหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน โดยไม่มีอาการหอบรุนแรง การตรวจฟังปอดในระยะแรกมักไม่พบเสียงผิดปกติ)* มักพบในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว ถ้าพบในคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ อาจมีอาการรุนแรงบางครั้งพบมีการระบาด

    การติดเชื้อไวรัส ที่พบบ่อย ได้แก่ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) อีสุกอีใส-งูสวัด (varicella-zoster/virus) ไวรัสอาร์เอสวี (respiratory syncytial virus/RSV) ไวรัสค็อกแซกกี (coxsackie virus) ไวรัสเริม (herpes simplex virus/HSV) ไวรัสโคโรนาสัมพันธ์กับโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงชนิดที่ 2 (SARS-CoV-2 เรียกสั้น ๆ ว่า "ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019" หรือ "ไวรัสโควิด-19") เป็นต้น

    การติดเชื้อรา ที่สำคัญได้แก่ นิวโมซิสติสคาริไน (Pneumocystis carinii)** ที่เป็นสาเหตุของปอดอักเสบในผู้ป่วยเอดส์ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากเชื้อราอื่น ๆ เช่น Histoplasma capsulatum‚ Blastomyces dermatitidis‚ Coccidioides immites‚ Cryptococcus‚ Aspergillus เป็นต้น

การติดต่อ เชื้อโรคและสารก่อโรคสามารถเข้าสู่ปอดโดยทางใดทางหนึ่ง ดังนี้

ก. ทางเดินหายใจ โดยการสูดเอาเชื้อโรคที่แพร่กระจายมาทางอากาศ (ถูกไอ จามใส่) หรือเชื้อที่อยู่เป็นปกติวิสัย (normal flora) ในช่องปากและคอหอย (เช่น สเตรปโตค็อกคัสนิวโมเนีย ฮีโมฟิลุสอินฟลูเอนเซกลุ่มแบคทีเรียที่ไม่พึ่งออกซิเจน) ลงไปในปอด

ข. การสำลัก เอาสารเคมี (น้ำมัน) น้ำย่อย น้ำ (จมน้ำ) หรือเศษอาหารเข้าไปในปอด การอักเสบนอกจากเกิดจากสารระคายเคืองแล้ว ยังอาจเกิดจากเชื้อโรคที่อยู่ในช่องปากและคอหอยที่ถูกสำลักลงไปในปอด

ค. การแพร่กระจายไปตามกระแสเลือด ได้แก่ การฉีดยาหรือให้น้ำเกลือที่มีการแปดเปื้อนเชื้อ การติด เชื้อในอวัยวะส่วนอื่น เช่น สครับไทฟัส เล็ปโตสไปโรซิส ภาวะโลหิตเป็นพิษ เป็นต้น

* เดิมนิยมเรียกว่า ปอดอักเสบนอกแบบ (atypical pneumonia) เนื่องจากอาการไม่เหมือนปอดอักเสบจากนิวโมค็อกคัส (ที่จัดเป็น typical pneumonia) นอกจากไมโคพลาสมาแล้ว ปอดอักเสบนอกแบบยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ เชื้อchlamydia, เชื้อlegionella

ปัจจุบันพบว่า เชื้อโรคทุกชนิดสามารถทำให้เกิดปอดอักเสบที่มีอาการทั้งที่รุนแรง (typical) และไม่รุนแรง (atypical) ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ขึ้นกับระยะและความรุนแรงของการติดเชื้อ

** ปัจจุบันเรียกชื่อใหม่ว่า นิวโมซิสติสจิโรเวซิ (Pneumocystis jiroveci) และจัดอยู่ในกลุ่มเชื้อรา ไม่ใช่โปรโตซัวที่เคยเข้าใจแต่เดิม


อาการ

มักมีอาการไข้ ไอ เจ็บหน้าอก และหอบเหนื่อย เป็นสำคัญ

ส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะเกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัสนิวโมเนีย หรือฮีโมฟิลุสอินฟลูเอนเซ) มักมีอาการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้นหรือไข้หวัดนำมาก่อน

บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ปวดท้อง ท้องเดิน เบื่ออาหารอาเจียน ร่วมด้วย

อาการไข้มักเกิดขึ้นฉับพลัน อาจมีลักษณะไอเป็นพัก ๆ หรือไข้ตลอดเวลา บางรายก่อนมีไข้ขึ้น อาจมีอาการหนาวสั่นมาก (ซึ่งมักจะเป็นเพียงครั้งเดียวในช่วงแรก ๆ)

อาการไอ ในระยะแรกมีลักษณะไอแห้ง ๆ ต่อมาจะมีเสมหะขาวหรือขุ่นข้นออกเป็นสีเหลือง สีเขียว บางรายอาจมีสีสนิมเหล็กหรือเลือดปน

บางรายอาจมีอาการเจ็บหน้าอก แบบเจ็บแปลบเวลาหายใจเข้าหรือเวลาไอแรง ๆ ตรงบริเวณที่มีการอักเสบของปอด บางครั้งอาจปวดร้าวไปที่หัวไหล่สีข้าง หรือท้อง

ผู้ป่วยมักมีอาการหอบเหนื่อย หายใจเร็ว ถ้าเป็นมากอาจมีอาการปากเขียว ตัวเขียว ในรายที่เป็นไม่มากอาจไม่มีอาการหอบเหนื่อยชัดเจน

ในผู้สูงอายุ อาจมีอาการซึม สับสน และไม่มีไข้

ในทารกหรือเด็กเล็ก อาจมีอาการปวดท้อง ท้องอืด อาเจียน ท้องเดิน ซึม ร้องกวน ไม่ดูดนม ร่วมด้วยบางรายอาจมีอาการชักจากไข้

ในรายที่เป็นปอดอักเสบจากภาวะแทรกซ้อนของโรคติดเชื้ออื่น ๆ ก็มักมีอาการของโรคติดเชื้ออื่น ๆ (เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส ไอกรน สครับไทฟัส เล็ปโตสไปโรซิส เป็นต้น) นำมาก่อน


ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้เป็นฝีในปอด (lung abscess) ภาวะมีน้ำหรือหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด  ปอดแฟบ (atelectasis) หลอดลมพอง

เชื้ออาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือด กลายเป็นโลหิตเป็นพิษ สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) เยื่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) เยื่อหุ้มช่องท้องอักเสบ ข้ออักเสบติดเชื้อเฉียบพลัน เป็นต้น

ที่ร้ายแรง ได้แก่ กลุ่มอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute respiratory distress syndrome) ภาวะการหายใจล้มเหลว (respiratory failure) และภาวะช็อกจากโรคติดเชื้อ (septic shock) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

มักตรวจพบไข้ (39-40 องศาเซลเซียส) บางรายอาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือไม่มีไข้

ในรายที่เป็นมาก จะมีอาการหายใจเร็วมากกว่า 30-40 ครั้ง/นาที (เด็กอายุ 0-2 เดือน หายใจมากกว่า 60 ครั้ง/นาที อายุ 2 เดือนถึง 1 ปี มากกว่า 50 ครั้ง/นาที อายุ 1-5 ปี มากกว่า 40 ครั้ง/นาที) ซี่โครงบุ๋ม รูจมูกบาน อาจมีอาการตัวเขียว (ริมฝีปาก ลิ้น และเล็บเขียว) และภาวะขาดน้ำ

การใช้เครื่องฟังตรวจปอดมักมีเสียงกรอบแกรบ (crepitation) ซึ่งมักได้ยินตรงบริเวณใต้สะบัก (ปอดส่วนล่าง) ข้างหนึ่งหรือ 2 ข้าง บางรายอาจได้ยินเสียงอึ๊ด (rhonchi) หรือเสียงวี้ด (wheezing) เฉพาะบริเวณใดบริเวณหนึ่ง

บางรายอาจพบอาการเคาะทึบ (dullness) และใช้เครื่องฟังตรวจได้ยินเสียงหายใจค่อย (diminished breath sound) ที่ปอดข้างใดข้างหนึ่ง

บางรายอาจพบอาการของโรคติดเชื้ออื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เริมที่ริมฝีปาก ผื่นของหัด อีสุกอีใส หรือโรคมือ-เท้า-ปาก เป็นต้น

ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อไมโคพลาสมาหรือคลามีเดีย อาจมีผื่นตามผิวหนังร่วมด้วย ส่วนการตรวจฟังปอดในระยะแรกอาจไม่พบเสียงผิดปกติก็ได้

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการเอกซเรย์ปอด ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุ (โดยการย้อมเสมหะ เพาะเชื้อจากเสมหะ เพาะเชื้อจากเลือด) ตรวจระดับอิเล็กโทรไลต์และออกซิเจนในเลือด


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าพบในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงอยู่ก่อน และมีอาการในระยะแรกเริ่ม (หายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย ไม่มีอาการซี่โครงบุ๋ม หรือตัวเขียว) ให้การรักษาเบื้องต้นด้วยยาปฏิชีวนะ (เช่น เพนิซิลลินวี, อะม็อกซีซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ, อีริโทรไมซิน, ร็อกซิโทรไมซิน เป็นต้น) และให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ควรติดตามดูอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด

ถ้าอาการดีขึ้นใน 3 วัน ควรให้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันนาน 10-14 วัน ถ้าไม่ดีขึ้น หรือมีอาการหอบมากขึ้น ควรส่งโรงพยาบาล

2. ถ้าพบในทารก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางปอดหรือโรคหัวใจอยู่ก่อน ผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือมีอาการหอบรุนแรง ซี่โครงบุ๋ม ตัวเขียว สับสน หรือซึม แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาลให้การรักษาตามอาการ และรักษาแบบประคับประคอง (เช่น ให้ออกซิเจน น้ำเกลือ ยาลดไข้) และเลือกให้ยาต้านจุลชีพ (ยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส ยาต้านเชื้อรา) ตามชนิดของเชื้อที่พบ

ผลการรักษา ขึ้นกับชนิดของเชื้อและความรุนแรงของโรค ในรายที่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องตั้งแต่ระยะแรกส่วนใหญ่มักจะหายเป็นปกติ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนตามมา

แต่ถ้าปล่อยให้มีอาการรุนแรง หรือติดเชื้อชนิดร้ายแรง (เช่น สแตฟีโลค็อกคัส เคล็บซิลลา) หรือพบในทารก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ก็มักจะมีภาวะแทรกซ้อน และมีอัตราตายค่อนข้างสูง


การดูแลตนเอง

หากมีอาการไข้ หายใจหอบ หรือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีหายใจเร็วกว่าปกติ (เด็กอายุ 0-2 เดือน หายใจมากกว่า 60 ครั้ง/นาที อายุ 2 เดือนถึง 1 ปี หายใจมากกว่า 50 ครั้ง/นาที อายุ 1-5 ปี หายใจมากกว่า 40 ครั้ง/นาที) ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที

เมื่อตรวจพบว่าเป็นปอดอักเสบ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา (เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ) ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด


การป้องกัน

1. ปฏิบัติเช่นเดียวกับการป้องกันไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่

2. อย่าฉีดยาด้วยเข็มและกระบอกฉีดยาที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ

3. อย่าอมน้ำมันเล่น ควรเก็บน้ำมันให้ห่างมือเด็ก

4. ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรน หัด อีสุกอีใส แก่เด็กทุกคน ในรายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนป้องกันการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสนิวโมเนีย หรือนิวโมค็อกคัส (pneumococcal vaccine)

5. เมื่อเป็นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส เป็นต้น ควรดูแลรักษาเสียแต่เนิ่น ๆ

6. ป้องกันมิให้เป็นโรคทางปอดเรื้อรัง (หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมปอดโป่งพอง) โดยการไม่สูบบุหรี่


ข้อแนะนำ

1. ผู้ที่มีอาการไข้ ไอ และหอบ มักมีสาเหตุจากปอดอักเสบ แต่ก็อาจมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ ได้

2. ผู้ที่เป็นปอดอักเสบจากเชื้อไมโคพลาสมานิวโมเนีย ซึ่งพบบ่อยในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว มักมีอาการไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอแห้ง ๆ หรือมีเสมหะ มักจะไอรุนแรง แต่ไม่มีอาการหายใจหอบรุนแรง (ส่วนน้อยที่มีอาการหายใจหอบรุนแรง) ทำให้ดูคล้ายอาการของไข้หวัดใหญ่ และหลอดลมอักเสบ อาการจะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป มักจะเป็นอยู่นาน 1-2 สัปดาห์ มักตอบสนองต่อการรักษาได้ดี บางคนอาจหายได้เองโดยไม่ได้รับการรักษา แต่หลังจากหายจากไข้แล้ว อาจมีอาการไอและอ่อนเพลียต่อไปอีกหลายสัปดาห์ถึง 3 เดือน

3. โรคนี้แม้ว่าจะมีอันตรายร้ายแรง แต่ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มักจะหายขาดได้ ดังนั้น หากสงสัยผู้ป่วยเป็นโรคนี้ควรรีบให้ยาปฏิชีวนะ ติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด ถ้ามีอาการหอบรุนแรง พบในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง หรือไม่มั่นใจควรส่งไปโรงพยาบาลทันที

4. ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยโรคนี้ หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ (เช่น ไข้ เจ็บคอ เสียงแหบ น้ำมูกไหล ไอ ท้องเดิน หายใจเหนื่อยหอบ) หรือทำการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแอนติเจน (ATK) ด้วยตนเองให้ผลเป็นบวก ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

11
ดอกบัวในโถแก้ว: " ดอกไม้บูชาพระ "  แต่ละชนิดเสริมสิริมงคลอย่างไร

การไหว้พระ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ  ดอกไม้บูชาพระ  ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งความสดชื่นแจ่มใส และรุ่งเรือง การถวายดอกไม้ส่วนใหญ่จะใช้ดอกไม้สด เพราะการใช้ดอกไม้เหี่ยวแห้ง เป็นนิมิตความหมายแห่งความหดหู่ใจ และความเสื่อมโทรม  บุคคลผู้บูชาด้วยดอกไม้ที่มีสีสวย

เช่น บูชาพระด้วยดอกไม้พลาสติก หรือดอกไม้ประดิษฐ์ ต่อไปในภายหน้าผู้นั้นจะได้อะไรก็ล้วนแต่มีรูปร่างลักษณะดีมีรูปสวย แต่คุณภาพไม่ดี ดังสุภาษิตว่า "สวยแต่รูป จูบไม่หอม"  การเลือกดอกไม้ไหว้พระ ดอกไม้มงคลที่มีความหมายดี เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง นำความโชคดีต่างๆ มาให้   บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้มีกลิ่นหอม   ต่อไปในภายหน้าผู้นั้นจะได้อะไรก็ล้วนมีคุณภาพดี แต่รูปร่างลักษณะไม่สวย ไม่งดงาม ดังสุภาษิตว่า "ถึงรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจดี"  บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้กำลังสดชื่น   ต่อไปในภายหน้าผู้นั้นจะได้อะไรก็ล้วนแต่เป็นของใหม่ๆ ไม่ต้องใช้ของที่ผู้อื่นใช้แล้ว   บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้ที่บอบช้ำเหี่ยวแห้ง  ต่อไปในภายหน้าผู้นั้นจะได้อะไรก็ล้วนแต่เป็นของเก่าๆ เหี่ยวๆ แห้งๆ เป็นของที่ผ่านมือผู้อื่นมาแล้ว   ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายแตกต่างกันดังนี้

1. ดอกบัว... พบแต่ความสำเร็จ เป็นไม้มงคลเปี่ยมด้วยคุณค่าและเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ พลังสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความนิยมมากที่สุด

2. ดอกดาวเรือง... พบแต่ความรุ่งเรืองเสริมให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า มีเงินมีทอง

3. ดอกพุด... จะส่งผลให้มีความเจริญ มั่นคง แข็งแรงสมบูรณ์ ควรใช้เป็นดอกพุดชนิดสีขาว

4. ดอกมะลิ... พบแต่ความสุขสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นมะลิซ้อนหรือมะลิลา ก็เป็นสิริมงคลในด้านทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์ มีความรักความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไป

5. ดอกรัก... พบแต่ความรักที่เปี่ยมด้วยความสุข

6. ดอกกุหลาบ... พบแต่ความมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น

7. ดอกแก้ว...มีความดี ความสูงค่า มีจิตใจแจ่มใสบริสุทธิ์ดุจดังแก้ว

8. ดอกกล้วยไม้... พบแต่ความสำเร็จ  เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงมิตรภาพ ความงดงาม ความบริสุทธิ์

9. ดอกจำปี... ทำให้ชีวิตรุ่งเรือง การงานก้าวหน้า

10. ดอกจำปา... นำโชคสู่ครอบครัว

11. บานไม่รู้โรย...จะช่วยเสริมด้านความรักของผู้อยู่อาศัยและคู่รักให้ผูกพันมั่นคงต่อกัน

12. ดอกเข็ม... จะทำให้สมองปลอดโปร่ง เกิดความคิดอ่านที่ดี ความคิดเฉียบขาด

13. เบญจมาศ... ความยั่งยืน

14. ดอกลิลลี่... พบแต่ ความน่ายินดีในทุกเรื่อง

15. ดอกพุดตาน... หรือคนไทยมักเรียกว่า ดอกไม้สามสี หมายถึง ความพร้อมด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ยศศักดิ์

ที่สำคัญที่สุดหากเราซื้อดอกไม้บูชาพระพุทธรูปไม่ว่าชนิดไหน ไม่ควรปล่อยให้เหี่ยวแห้งอยู่ในแจกันถวายพระ ควรรีบเอาออกมาจากแจกันก่อนที่จะเหี่ยวแห้ง และอีกอย่างคือควรที่จะซื้อดอกไม้สดๆ ถวายพระ เพื่อความเบิกบานใจของตัวเราเองเวลาถวายพระ เพราะเมื่อนึกถึงการทำบุญในภายหลังจะได้นึกด้วยความปีติใจได้

12
โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน (Acute pyogenic arthritis)

ข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน (acute pyogenic arthritis) เป็นภาวะรุนแรงซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้ข้อพิการได้

โรคนี้ในปัจจุบันพบได้ค่อนข้างน้อย

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะแบคทีเรีย เช่น เชื้อหนองใน สเตรปโตค็อกคัส สแตฟีโลค็อกคัส เมนิงโกค็อกคัส เป็นต้น เชื้อโรคเหล่านี้อาจเข้าไปในข้อโดยตรง (เช่น จากบาดแผลที่บริเวณข้อ) หรือลุกลามจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายผ่านกระแสเลือดเข้าไปในข้อ

อาการ

เกิดขึ้นฉับพลันทันทีด้วยอาการไข้ หนาวสั่น ข้อบวม แดง ร้อนและปวดมาก มักเป็นเพียง 1-2 ข้อใหญ่ ๆ เช่น ข้อเข่า ข้อศอก ข้อมือ ข้อเท้า เป็นต้น บางรายอาจมีอาการปวดตามข้อต่าง ๆ นำมาก่อนหลายวัน

ผู้ป่วยอาจมีประวัติได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่บริเวณข้อ หรือมีโรคติดเชื้อของส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอยู่ก่อน เช่น เป็นฝี หนองใน คออักเสบ ปอดอักเสบ ไตอักเสบ เยื่อบุมดลูกอักเสบ เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาเชื้ออาจเข้ากระแสเลือดเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ หรือทำให้ข้อพิการได้

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจพบไข้ ข้อบวมแดงร้อน

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์ข้อและเจาะดูดหนองจากข้อไปตรวจหาเชื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่พบ

อาจต้องเจาะระบายหนองออกบ่อย ๆ

นอกจากนี้ต้องให้ผู้ป่วยนอนพัก ยกข้อที่อักเสบให้สูงไว้ และอาจต้องเข้าเฝือกไม่ให้ข้อเคลื่อนไหว เมื่ออาการอักเสบเริ่มทุเลา ควรแนะนำให้ผู้ป่วยบริหารข้อเพื่อป้องกันข้อแข็งหรือพิการ

ผลการรักษา ถ้าเลือกให้ยาปฏิชีวนะได้ถูกต้อง ผู้ป่วยมักจะหายได้ภายใน 7-10 วัน โดยไม่มีร่องรอยของความพิการ แต่ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้องข้ออาจพิการได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น  มีไข้สูงร่วมกับข้ออักเสบ บวมแดงร้อน ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ถ้าหลังกินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรกลับไปพบแพทย์


การป้องกัน

อาจป้องกันด้วยการระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่บริเวณข้อ และถ้ามีบาดแผลหรือเป็นโรคติดเชื้อที่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ควรรีบไปรับการรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

โรคนี้มีความรุนแรงและอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษ เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่ใช้ยาที่กดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น หากสงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

13
จัดฟันบางนา: รู้หรือไม่ ? ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดแบบอื่น !

การจัดฟันแบบใส invisalign เป็นการจัดฟันที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเห็นการวางแผนของการรักษาและการเคลื่อนตัวของฟัน ได้ 100 % ถึงทำให้ผลการรักษาออกมาประสบความสำเร็จและมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน และแก้ไขปัญหาของสภาพฟันได้ทุกกรณี ทำให้คุณกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสและมรสุขภาพฟันที่ดีขึ้นอีกด้วย

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมการจัดฟันแบบใส invisalign ถึงดีกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่น ซึ่งการจัดแบบทั่วไปที่เราเห็นคือ มีการใส่เหล็กจัดฟันเข้าไปในช่องปาก แต่การจัดฟันแบบใส invisalign ทำให้มองแทบไม่เห้นเครื่องการจัดฟัน ทั้งยังสามารถถอดออกได้ด้วย นี่ก็เป็นจุดเด่นว่าทำการจัดฟันแบบใส ถึงดีกว่าการจัดฟันแบบอื่น นอกจากเครื่องมือที่แตกต่างกันแล้ว การจัดฟันแบบใสยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เป็นที่พึงพอใจของผู้เข้ารับการรักษา เพราะสามารถคาดการณ์ผลการรักษาได้อย่างแม่นยำ

อย่างไรก็ตามการจัดฟันแบบใส ยังเหมาะสมกับไลพ์สไตล์ของคนในสมัยนี้อีกด้วย เพราะประหยัดเวลาในการเข้าพบทันตแพทย์ สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจดดยแทบจะไม่เห้นเครื่องมือ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องมีเรื่องกังวลว่าเหล็กจะหลุดขณะรับประทานอาหาร และยังมีความเจ็บปวดที่น้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่น

นอกจากนี้ การดุแลรักษาความสะอาดของช่องปาก ก็สามารถทำได้ง่ายเพราะสามารถถอดเครื่องมือออกได้ขณะที่แปรงฟัน และยังใช้ไหมขัดฟันได้ตามปกติ เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี และเครื่องมือการจัดฟันแบบใส หรือ เทรย์นั้น สามารถถอดออกได้ และมีวิธีการดูแลรักษาที่ง่ายไม่ยุ่งยาก หากมีข้อสงสัยสามารถเข้ารับคำแนะนำจากทางคลีนิคได้ ทางเรายินดีให้คำปรึกษาฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

14
จัดฟันบางนา: การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของหญิงตั้งครรภ์

การดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเท่าไหร่ เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งของคนเรา หากเราละเลยสุขภาพช่องปากและฟัน ก็จะทำให้เรามีสุขภาพฟันที่ไม่สวยงาม ไม่สะอาด และยังส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาในอนาคตได้ แต่เราคงไม่อยากมีสุขภาพช่องปากและฟันทีแย่ เพราะปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันนั้น ส่งผลกระทบในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความมั่นใจ บุคลิกภาพ รวมไปถึงสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย

เพราะฉะนั้น เราทุกคนจะต้องแปรงฟันให้สะอาด และใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดในจุดที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง รวมไปถึงหญิงที่ตั้งครรภ์ ก็ต้องเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันเช่นเดียวกัน และต้องคำนึงในเรื่องของความสะอาดให้มากเป็นพิเศษอีกด้วย วันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของหญิงที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ว่าควรจะดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างไร ต้องบอกก่อนว่า สุขภาพช่องปากในหญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ควรเอาใจใส่ เพราะสุขภาพช่องปากเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายโดยรวม และสามารถส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่ควรทราบถึงวิธีการดูแลช่องปากและการป้องกันปัญหาเหงือกและฟันที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและลูกน้อยในระยะยาวต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจจะตามมาหรือส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้

สำหรับหญิงที่อยู่ในขณะการตั้งครรภ์นั้น จะส่งผลให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลง และยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากด้วย โดยหญิงตั้งครรภ์บางราย อาจเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอย่างโรคเหงือกหรือฟันผุได้ เนื่องจากฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายในระหว่างการตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นจนส่งผลต่อการตอบสนองของร่างกายต่อคราบเชื้อแบคทีเรียที่เกาะอยู่บนผิวฟัน และยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย รวมไปถึง พฤติกรรมของคุณแม่หรือความเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้านอื่นๆที่อาจทำให้เกิดปัญหาช่องปากได้ในที่สุด

ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันที่หญิงตั้งครรภ์ทักจะพบได้บ่อยคือ ภาวะเหงือกอักเสบ ที่อาจจะมีผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย และการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียเดิมที่อยู่ภายในช่องปาก รวมไปถึงการเกิดโรคปริทันต์ เพราะสตรีมีครรภ์ผู้ซึ่งมีการติดเชื้อที่เหงือกอย่างเรื้อรังอาจมีอาการรุนแรงขึ้น ต่อมาคือปัญหาโรคฟันผุ อาจเกิดจากการดูแลสุขภาพช่องปากลดลง หรือการเปลี่ยนพฤติกรรมในการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้ เนื่องจากปัญหาของสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งหากไม่ดูแลรักษาสุขภาพช่องปากให้ดีและปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรังก็อาจส่งผลอันตรายต่อแม่และทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรที่จะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้ดี เพื่อความปลอดภัยและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

สำหรับวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันในหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เมื่อมีอายุครรภ์ 4 – 6 เดือน ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันและทำความสะอาดช่องปากอย่างละเอียดและ ไม่ควรรอจนกระทั่งมีอาการ เพราะจะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงที่จะตามมา และที่สำคัญควรแปรงฟันให้สะอาด อย่างน้อย วันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ นาน 2 นาที ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟันทุกวัน

นอกจากนี้ หลังจากที่คุณแม่มีอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องหรือรับประทานอาหารที่มีรสเปรี้ยว คุณแม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกรดที่จะไปทำลายพื้นผิวของฟัน และควรที่จะหลีกเลี่ยง การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน นมเปรี้ยว และที่สำคัญหญิงตั้งครรภ์ควรไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากอย่างละเอียด และเมื่อต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปาก ควรแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบว่าตนกำลังตั้งครรภ์ เนื่องจากการรักษาบางวิธีอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้ ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้มีฟันที่สวยงาม เป็นธรรมชาติและป้องกันการเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมา

15
หมอประจำบ้าน: สมองพิการ (Cerebral Palsy)

Cerebral Palsy หรือสมองพิการ เป็นโรคความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นกับทารกหรือเด็กเล็ก โดยเกิดขึ้นเมื่อสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเกิดความผิดปกติ ได้รับความเสียหาย หรือมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะส่งผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการเคลื่อนไหวร่างกายไปตลอดชีวิต

อาการของ Cerebral Palsy

อาการของผู้ป่วย Cerebral Palsy อาจมีความรุนแรงมากหรือน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสมองที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งมีอาการที่สามารถพบได้ทั่วไป เช่น

    พัฒนาการล่าช้า เช่น อายุ 8 เดือนแต่ยังนั่งไม่ได้ อายุ 18 เดือนแต่ยังเดินไม่ได้ รวมถึงพัฒนาการทางการพูดช้ากว่าปกติ เป็นต้น
    ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น ความตึงตัวของกล้ามเนื้อผิดปกติ กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ควบคุมกล้ามเนื้อไม่ได้จนทำให้เสียการทรงตัว เคลื่อนไหวน้อย น้ำลายไหลมาก กลั้นปัสสาวะไม่ได้แม้ถึงวัยที่ควรทำได้ เป็นต้น
    อาจมีความบกพร่องทางสติปัญญาและการเรียนรู้
    ปัญหาทางการมองเห็นและการได้ยิน หรืออาจมีอาการตาเหล่ร่วมด้วย
    ปัญหาทางการสื่อสาร การพูดและการใช้ภาษา
    การรับรู้ความรู้สึกผิดปกติ อย่างความรู้สึกเจ็บ

ทั้งนี้ ตำแหน่งของสมองที่ได้รับความเสียหายจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการแตกต่างกันออกไป และสมองพิการอาจแบ่งเป็นหลายชนิด ดังนี้

    Cerebral Palsy ชนิดหดเกร็ง เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุด หรือประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย Cerebral Palsy ทั้งหมด โดยกล้ามเนื้อจะแข็งเกร็งและมีปัญหาในการเดิน เช่น เดินแล้วขาหรือหัวเข่าไขว้กัน เป็นต้น และผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นอัมพาตได้ ซึ่งอาจส่งผลเพียงครึ่งซีกด้านซ้ายหรือขวา หรือมักส่งผลที่ขา 2 ข้างมากกว่าแขนทั้ง 2 ข้าง ใบหน้า หรือทั้งร่างกาย
    Cerebral Palsy ชนิดกระตุก ผู้ป่วยจะมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึงหรืออ่อนแรงสลับกันไปมา ซึ่งอาจทำให้มีอาการชักหรือไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายได้
    Cerebral Palsy ชนิดเดินเซ เป็นชนิดที่พบได้น้อย โดยผู้ป่วยจะมีปัญหาในการทรงตัว สมดุลร่างกาย และการประสานงานของระบบต่าง ๆ รวมทั้งอาจมีอาการสั่นร่วมด้วย
    Cerebral Palsy ชนิดผสม ผู้ป่วยบางรายอาจมีสมองพิการมากกว่า 1 ชนิดเกิดขึ้นร่วมกัน

ส่วนผู้ป่วยเด็กที่เป็น Cerebral Palsy เมื่อเด็กโตขึ้นอาการต่าง ๆ มักจะไม่แย่ลงตามกาลเวลา แต่หากไม่ได้รับการวินิจฉัยที่เหมาะสมและไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง ก็อาจทำให้อาการแย่ลงได้ ดังนั้น หากสงสัยหรือพบว่าลูกน้อยมีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว การรับรู้ การทำงานของกล้ามเนื้อ การทรงตัว การกลืน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการด้านอื่น ๆ ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
สาเหตุของ Cerebral Palsy

โรค Cerebral Palsy เกิดขึ้นเมื่อเซเรบรัลคอร์เทกซ์ (Cerebral Cortex) ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวได้รับความเสียหายหรือมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ มักเกิดขึ้นตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ แต่ก็อาจเกิดขึ้นในระหว่างคลอดหรือหลังคลอดได้เช่นกัน แม้ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนแต่ก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองของทารกได้ เช่น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมองของทารกก่อนคลอด ได้แก่

    ปัญหาสุขภาพและการติดเชื้อของมารดาขณะตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน โรคอีสุกอีใส โรคเริม โรคซิฟิลิส การติดเชื้อไวรัสซิกา การติดเชื้อไวรัสไซโตเมกะโลโวรัส โรคท็อกโซพลาสโมซิส เป็นต้น
    ภาวะสมองผิดปกติในส่วนเนื้อเยื่อสมองสีขาวที่อาจเกิดจากทารกได้รับเลือดและออกซิเจนน้อยลง
    โรคหลอดเลือดสมองในทารก ซึ่งทำให้มีเลือดออกภายในสมองของทารก หรือทำให้ทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
    อุบัติเหตุที่ทำให้สมองของทารกได้รับการกระทบกระเทือนตั้งแต่อยู่ในครรภ์
    การกลายพันธุ์หรือความผิดปกติของพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมองของทารกระหว่างคลอดหรือหลังคลอด ได้แก่

    สมองขาดออกซิเจนชั่วคราว ซึ่งอาจเกิดจากการคลอดหรือการสำลักน้ำคร่ำ จนทำให้สมองของเด็กได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
    ปัญหาสุขภาพและการติดเชื้อของทารก เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้สมองอักเสบ ภาวะดีซ่านอย่างรุนแรงหรือไม่ได้รับการรักษา เป็นต้น
    สมองของทารกได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่

    การคลอดก่อนกำหนด
    ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
    การตั้งครรภ์ทารกแฝด หรือมีทารกในครรภ์ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
    มารดาตั้งครรภ์ขณะมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
    มารดาที่มีระดับความดันโลหิตสูงหรือต่ำมากผิดปกติขณะตั้งครรภ์
    หมู่เลือดอาร์เอชของมารดาและทารกไม่ตรงกัน
    การคลอดท่าก้น ซึ่งอาจทำให้คลอดยาก

การวินิจฉัย Cerebral Palsy

แพทย์จะวินิจฉัยโรคนี้จากการซักประวัติ ประเมินอาการ ตรวจร่างกาย ถามเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างคลอดหรือหลังคลอด และอาจวินิจฉัยด้วยวิธีการอื่น ๆ เพิ่มเติม ดังนี้

    การสแกนสมอง เพื่อตรวจและประเมินความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสมอง โดยอาจตรวจด้วยการสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ การอัลตราซาวด์ศีรษะ และหากผู้ป่วยมีอาการชัก แพทย์อาจตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองร่วมด้วย
    การตรวจเลือด เพื่อหาความผิดปกติทางพันธุกรรม กระบวนการทำงานของร่างกาย หรือตรวจหาโรคอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกับโรคสมองพิการ
    การตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ ตรวจความผิดปกติทางการมองเห็น การได้ยิน การพูด หรือการเคลื่อนไหว ตรวจความบกพร่องทางสติปัญญา รวมถึงพัฒนาการที่ล่าช้าด้านอื่น ๆ เป็นต้น

การรักษา Cerebral Palsy

สำหรับผู้ป่วย Cerebral Palsy หากยิ่งได้รับการรักษาเร็วก็จะยิ่งส่งผลดีต่อตัวผู้ป่วยมากขึ้นเท่านั้น แม้จะไม่สามารถรักษาโรคนี้ให้หายขาดได้ แต่อาจช่วยปรับปรุงขีดความสามารถด้านต่าง ๆ ให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงความเป็นปกติมากที่สุด โดยจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

การบำบัดรักษา เช่น

    กายภาพบำบัด เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ การทรงตัว การเคลื่อนไหว และป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ
    กิจกรรมบำบัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายส่วนบน ปรับปรุงท่าทาง และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ เช่น การแต่งตัว การเข้าห้องน้ำ การไปโรงเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ กิจกรรมบำบัดยังช่วยให้ผู้ป่วยเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเอง และสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตนเองในอนาคต
    นันทนาการบำบัด เพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา และกิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้ใช้ทักษะทางร่างกาย สติปัญญา และความสามารถของตนเอง ซึ่งผู้ปกครองหรือคนรอบข้างอาจสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งการพูด ความมั่นใจ และอารมณ์ของผู้ป่วยที่เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
    อรรถบำบัด เพื่อพัฒนาทักษะการพูดและการสื่อสารของผู้ป่วย โดยอาจใช้วิธีต่าง ๆ ประกอบการบำบัด เช่น ภาพ สัญลักษณ์ ภาษากาย หรือคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องสังเคราะห์เสียง เป็นต้น
    การปรับปรุงวิธีรับประทานอาหาร ด้วยการฝึกบริหารลิ้นและการกลืนอาหาร รวมทั้งอาจเปลี่ยนให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารอ่อนหรืออาหารเหลว เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะขาดสารอาหารและการสำลักที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่ปอด
    การรักษาอาการน้ำลายไหล เป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในผู้ป่วย Cerebral Palsy หากน้ำลายไหลมากจะทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังรอบปากและอาจเกิดการติดเชื้อขึ้นได้ ซึ่งอาจรักษาด้วยการบริหารกล้ามเนื้อปากและลิ้น หรือการใช้ยา เช่น ยากลุ่มแอนตี้มัสคารินิกหรือยาโบทูลินัมท็อกซิน เป็นต้น เพื่อลดการผลิตน้ำลาย รวมถึงอาจผ่าตัดต่อมน้ำลายเพื่อเปลี่ยนทิศทางให้น้ำลายไหลเข้าไปข้างในปาก

การรักษาโดยใช้ยา เช่น

    ยาคลายกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย เช่น ยาไดอาซีแพม ยาบาโคลเฟน ยาไตรเฮกซีเฟนิดิล เป็นต้น
    ยาอื่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ จากโรค Cerebral Palsy เช่น ยานอนหลับ ยากันชัก ยาระบาย ยาบรรเทาอาการปวด เป็นต้น

การผ่าตัด เช่น

    การผ่าตัดข้อและกระดูก เพื่อแก้ไขข้อและกระดูกของแขน ขา หรือสะโพกให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง รวมถึงช่วยยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่สั้นเกินไปจนทำให้กล้ามเนื้อหดรั้ง มักใช้รักษาผู้ป่วยที่มีปัญหากล้ามเนื้อแข็งเกร็งอย่างรุนแรง จนส่งผลให้เกิดปัญหาหรืออาการเจ็บปวดในขณะเดินหรือเคลื่อนไหวร่างกาย
    การตัดรากเส้นประสาท มักใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วไม่เป็นผล โดยวิธีการนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดบริเวณซี่โครง หรืออาจผ่าตัดแก้ไขปัญหากระเพาะปัสสาวะทำงานมากเกินไปด้วย แต่การผ่าตัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น สูญเสียความรู้สึก มีอาการชา หรือรู้สึกอึดอัดบริเวณซี่โครงหลังรับการผ่าตัดรากเส้นประสาท เป็นต้น

การใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น แว่นตา แว่นขยาย เครื่องช่วยฟัง อุปกรณ์ช่วยพยุง วีลแชร์ เป็นต้น รวมทั้งกายอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกยิ่งขึ้น

ภาวะแทรกซ้อนของ Cerebral Palsy

โรค Cerebral Palsy อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น

    การรับรู้ความรู้สึกผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยบกพร่องทางการสัมผัสและการรับรู้อาการเจ็บปวด
    ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน ท้องผูก ลำไส้อุดตัน เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความผิดปกติในการควบคุมระบบประสาทส่วนกลางที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ความพิการทางร่างกาย การทำงานของกระเพาะอาหารหรือลำไส้ หรือการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ
    ความผิดปกติทางการมองเห็น เช่น ตาเหล่ หรือตาบอดครึ่งซีก เป็นต้น และ 8-18 เปอร์เซ็นของผู้ป่วยที่เป็นผู้ใหญ่สมองพิการอาจมีปัญหาทางการได้ยินร่วมด้วย
    ความบกพร่องของช่องปาก อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น บกพร่องในการสื่อสาร มีน้ำลายไหลตลอดเวลา ขาดสารอาหาร หรือมีความผิดปกติของขากรรไกร เป็นต้น
    ความผิดปกติของกระดูก มวลกระดูกจะลดลงในผู้ป่วยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกิดโรคกระดูกพรุน กระดูกหัก กระดูกสันหลังคด หรือมีอาการปวดได้
    ปัญหาทางจิต 2 ใน 3 ของผู้ที่สมองพิการจะบกพร่องทางสติปัญญา โดยอาจเป็นโรคประสาทหรือมีปัญหาทางจิตร่วมด้วย
    กลั้นปัสสาวะไม่ได้ เนื่องจากมีความบกพร่องด้านการควบคุมกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ

การป้องกัน Cerebral Palsy

โรค Cerebral Palsy ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางพันธุกรรม จึงไม่สามารถป้องกันได้ แต่อาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและป้องกันโรคนี้จากบางสาเหตุได้ด้วยการปฏิบัติตามแนวทาง ดังต่อไปนี้

การป้องกันตั้งแต่ในครรภ์มารดา เช่น

    รับวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะผู้ที่วางแผนตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันโรคหัดเยอรมันหรือโรคอีสุกอีใสที่อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อที่สมองของทารกในครรภ์
    ฝากครรภ์และไปพบแพทย์ตามกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ การติดเชื้อของทั้งมารดาและทารกในครรภ์ ภาวะทารกมีน้ำหนักตัวน้อย และการคลอดก่อนกำหนดที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์
    ดูแลสุขภาพขณะตั้งครรภ์ เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสมองของทารกในครรภ์ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงหรือระมัดระวังเมื่อต้องสัมผัสกับสารเคมี เป็นต้น

การป้องกันในเด็ก เช่น

    ป้องกันการกระทบกระเทือนต่อสมอง เช่น ให้เด็กใช้คาร์ซีท สวมหมวกกันน็อก หรือคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะเดินทางเสมอ เป็นต้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือนต่อศีรษะของเด็กจนส่งผลให้สมองพิการ
    ดูแลสุขภาพเด็ก ปรึกษาแพทย์เพื่อปฏิบัติตามแนวทางป้องกันภาวะดีซ่านหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็ก และให้เด็กรับวัคซีนครบตามที่แพทย์กำหนด

หน้า: [1] 2 3 ... 24





























































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย