ดอกบัวในโถแก้ว: การทำดอกไม้แห้ง มีกี่แบบแตกต่างกันอย่างไรการทำดอกไม้แห้งมีหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดี ข้อเสีย และความเหมาะสมกับดอกไม้แต่ละประเภทที่แตกต่างกันไปครับ เพื่อให้ได้ดอกไม้แห้งที่สวยงามและคงสภาพได้นานที่สุด
นี่คือประเภทหลักๆ ของการทำดอกไม้แห้ง และความแตกต่างกันของแต่ละวิธี:
1. การแขวนกลับหัวตากลม (Air Drying / Hanging Dry)
เป็นวิธีที่คลาสสิกและง่ายที่สุด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมากนัก
วิธีการ:
ตัดก้านดอกไม้ให้มีความยาวตามต้องการ (นิยมประมาณ 6-12 นิ้ว หรือตามลักษณะการใช้งาน)
เด็ดใบที่อยู่ส่วนล่างของก้านออกให้หมด
มัดก้านดอกไม้รวมกันเป็นช่อเล็กๆ (ประมาณ 3-5 ดอกต่อช่อ เพื่อให้ลมเข้าถึงได้ทั่วถึง)
แขวนดอกไม้แบบกลับหัวลง ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ดี แห้ง ไม่โดนแสงแดดโดยตรง และไม่มีความชื้น เช่น ในห้องเก็บของ ห้องใต้หลังคา หรือมุมห้องที่อากาศหมุนเวียน
ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และความชื้นในอากาศ) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิทและกรอบ
ข้อดี: ง่าย ประหยัด ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมากนัก เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีก้านแข็งและกลีบหนา
ข้อเสีย: ใช้เวลานาน สีของดอกไม้อาจจะซีดจางลงได้มาก รูปทรงอาจบิดเบี้ยวได้ง่าย ไม่เหมาะกับดอกไม้ที่มีกลีบบางหรือมีปริมาณน้ำมาก
ดอกไม้ที่เหมาะสม: กุหลาบ ไฮเดรนเยีย ยิปโซ สแตติส ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส ดอกหญ้าต่างๆ
2. การอบแห้งด้วยสารดูดความชื้น (Desiccant Drying / Silica Gel Drying)
เป็นวิธีที่ช่วยคงรูปทรงและสีสันของดอกไม้ไว้ได้ดีที่สุด
วิธีการ:
เตรียมดอกไม้โดยตัดก้านให้สั้นลง เหลือแต่ส่วนดอก หรือก้านสั้นๆ
เทซิลิกาเจล (Silica Gel) ลงในภาชนะที่มีฝาปิด (เช่น กล่องพลาสติก โหลแก้ว) ประมาณ 1-2 นิ้ว
วางดอกไม้ลงบนซิลิกาเจล โดยพยายามให้ซิลิกาเจลแทรกซึมเข้าไปในกลีบดอกเบาๆ
ค่อยๆ เทซิลิกาเจลกลบดอกไม้ให้มิด โดยไม่ให้ดอกไม้ถูกบดทับ
ปิดฝาภาชนะให้สนิท และทิ้งไว้ประมาณ 2-7 วัน (ขึ้นอยู่กับชนิดดอกไม้และขนาด) จนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิท
นำดอกไม้ออกจากซิลิกาเจลอย่างระมัดระวัง ใช้แปรงปัดซิลิกาเจลที่เกาะอยู่ออก
ข้อดี: คงสีสันและรูปทรงของดอกไม้ไว้ได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับดอกไม้ที่ต้องการความสวยงามสมจริง ใช้เวลาไม่นานเท่าการตากลม
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายสำหรับสารซิลิกาเจลที่อาจต้องเปลี่ยนหรืออบไล่ความชื้นเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ไม่เหมาะกับดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่มากๆ หรือมีรูปทรงที่ซับซ้อนมาก
ดอกไม้ที่เหมาะสม: กุหลาบ ไฮเดรนเยีย พีโอนี คาร์เนชั่น ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่ต้องการคงรูปและสี
3. การทับดอกไม้ (Flower Pressing)
เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีกลีบบางและต้องการนำไปใช้งานแบบแบน
วิธีการ:
เลือกดอกไม้ที่มีกลีบแบนและไม่หนามาก เช่น ดอกไม้เล็กๆ ใบไม้
วางดอกไม้ที่ต้องการทับลงบนกระดาษซับน้ำ (เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษร้อยปอนด์ หรือกระดาษซับมัน)
วางกระดาษซับน้ำอีกชั้นทับลงไปบนดอกไม้
นำไปวางไว้ในสมุดเล่มหนาๆ หรือเครื่องทับดอกไม้ (Flower Press)
วางของหนักๆ ทับลงไปบนสมุดหรือเครื่องทับ
ทิ้งไว้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยอาจเปลี่ยนกระดาษซับน้ำใหม่ทุกๆ 2-3 วันในช่วงแรกเพื่อดูดความชื้น
ข้อดี: ได้ดอกไม้แห้งแบบแบน เหมาะสำหรับงานศิลปะ งานคอลลาจ งานสมุดภาพ หรืองานฝีมืออื่นๆ ใช้พื้นที่จัดเก็บน้อย
ข้อเสีย: ดอกไม้จะแบนราบ สูญเสียมิติของดอกไม้เดิม อาจไม่เหมาะกับดอกไม้ทุกชนิด ใช้เวลาพอสมควร
ดอกไม้ที่เหมาะสม: ดอกไม้เล็กๆ เช่น แพนซี่ ไวโอเล็ต เดซี่ ดอกหญ้า กลีบกุหลาบ ใบไม้
4. การอบด้วยไมโครเวฟ (Microwave Drying)
เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด
วิธีการ:
เตรียมดอกไม้ (ตัดก้าน, เด็ดใบ)
นำดอกไม้ใส่ในภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ โดยอาจจะใช้ซิลิกาเจลหรือทรายกลบดอกไม้ (เหมือนวิธีที่ 2) หรือวางบนกระดาษซับน้ำ (สำหรับดอกไม้บางๆ)
นำเข้าไมโครเวฟ โดยใช้ไฟอ่อน (Low to Medium) ครั้งละประมาณ 30-60 วินาที แล้วนำออกมาตรวจสอบ พลิกด้าน และทำซ้ำจนกว่าดอกไม้จะแห้งสนิท (อาจใช้เวลาหลายครั้งขึ้นอยู่กับดอกไม้)
ข้อดี: รวดเร็วที่สุด ได้ผลลัพธ์ภายในไม่กี่นาที
ข้อเสีย: ต้องระมัดระวังในการควบคุมอุณหภูมิและเวลา เพราะดอกไม้อาจไหม้หรือสุกได้ง่าย สีอาจไม่สวยเท่าวิธีซิลิกาเจล บางครั้งรูปทรงอาจบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ดอกไม้ที่เหมาะสม: ดอกไม้ที่มีขนาดเล็ก-กลาง ดอกไม้บางประเภทที่ทนความร้อนได้ดี (เช่น กุหลาบ)
5. การอบด้วยเตาอบ (Oven Drying)
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการอบแห้ง
วิธีการ:
เตรียมดอกไม้ (ตัดก้าน, เด็ดใบ)
วางดอกไม้บนถาดอบที่รองด้วยกระดาษรองอบ
นำเข้าเตาอบที่ตั้งอุณหภูมิต่ำที่สุด (ประมาณ 38-60 องศาเซลเซียส) และอาจแง้มฝาเตาอบไว้เล็กน้อยเพื่อให้ความชื้นระบายออกไป
อบเป็นเวลาหลายชั่วโมง (2-6 ชั่วโมง หรือมากกว่า) ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของดอกไม้
ข้อดี: สามารถทำดอกไม้จำนวนมากได้พร้อมกัน
ข้อเสีย: ใช้เวลานานพอสมควร ต้องควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และต่ำมาก เพื่อไม่ให้ดอกไม้ไหม้ สีอาจจะเปลี่ยนไปได้ง่ายกว่าวิธีซิลิกาเจล
ดอกไม้ที่เหมาะสม: ดอกไม้ที่มีกลีบหนาพอสมควร ดอกไม้ที่ใช้ปริมาณมาก
การเลือกวิธีทำดอกไม้แห้งขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ที่คุณมี ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ (คงรูป/แบน/สี) และอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่ที่บ้านครับ